แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 1 บอร์นมัธ

รีพอร์ต

2 วันถัดมาหลังโปรแกรมเดิม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ได้ปิดฉากบาร์เคลย์ส พรีเมียร์ ลีก 2015/16 ด้วยชัยชนะ 3 – 1 เหนือบอร์นมัธที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ทีมปีศาจแดงทราบดีว่าเพียงแค่เก็บคะแนนได้ก็จะการันตีพื้นที่รอบแบ่งกลุ่มยูโรปา ลีกทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาเตะรอบคัดเลือกในเดือนกรกฏาคม และประตูจาก เวย์น รูนี่ย์, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แอชลี่ย์ ยัง ก็ช่วยให้ทีมปิดภารกิจนี้ลงได้สำเร็จ

อันที่จริงแมตช์นี้ควรเตะกันไปตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยจึงทำให้โปรแกรมต้องถูกเลื่อนออกมา ซึ่งแฟนๆ ก็ยังเข้ามาชมเกมในโอลด์ แทรฟฟอร์ดอย่างแน่นขนัดเช่นเคย สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น เป็นทีมเดิมจากที่ส่งชื่อไปในครั้งก่อน โดย มาร์กอส โรโฮ และ มัตเตโอ ดาร์เมียน หลุดโผด้วยอาการบาดเจ็บ ขณะที่ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ไม่มีชื่อเนื่องจากป่วย

ก่อนเริ่มเกม ดาบิด เด เคอา ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี เซอร์ แมตต์ บัสบี้ แต่เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ทั้งเขาและผู้รักษาประตูอีกฝั่งคือ อดัม เฟเดริชี่ ต่างก็แทบไม่มีงานให้ต้องทำสักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นช่วงต้นเกมที่เงียบเชียบ

โอกาสแรกของเกมมาถึงหลังจากผ่านมาแล้วครึ่งชั่วโมง เมื่อลูกฟรีคิกของรูนี่ย์ไปเข้าทาง ไมเคิล คาร์ริค ที่ไร้ตัวประกบ แต่มิดฟิลด์รายนี้ก็ไม่สามารถสร้างความหนักใจให้กับเฟเดริชี่ได้มากนัก เดอะ เชอร์รี่ส์มาได้โอกาสบ้างในช่วง 8 นาทีก่อนจบครึ่งแรก ลูกครอสต่ำมาเข้าทาง มาร์ค พิวจ์ ในกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของเขาก็ไปติดบล็อค อันโตนิโอ วาเลนเซีย

ขณะที่เวลาในครึ่งแรกเหลืออีก 2 นาที จังหวะขึ้นเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในครึ่งแรกก็นำมาซึ่งประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ ลีกที่รูนี่ย์ยิงได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยกัปตันปีศาจแดงแปโล่งๆ เข้าไปจากการทำชิ่งหนึ่ง-สองขึ้นมาทางฝั่งซ้ายระหว่าง ฮวน มาต้า กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ก่อนที่รายหลังจะจ่ายเข้ามาถึงรูนี่ย์ โดยที่มีแรชฟอร์ดบังทางหลอกกองหลังด้วย

เดอะ เชอร์รี่ส์ได้เปิดเกมบุกอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง คอลลัม วิลสัน ได้ยิงไปติดบล็อค คริส สมอลลิ่ง ก่อนที่ แดน กอสลิง จะยิงซ้ำข้ามคาน แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็น่าจะได้จุดโทษเหมือนกันในนาทีที่ 50 เมื่อมาต้าไปถูก สตีฟ คุ้ก สกัดล้มลง ในจังหวะที่มาร์กซิอัลจ่ายมาให้ แต่ผู้ตัดสิน จอน มอสส์ ก็โบกมือปฏิเสธ

ทีมปีศาจแดงเกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 54 เมื่อคาร์ริคลองส่องไกลไปแฉลบ ทอมมี่ เอลฟิค ชนคานเต็มๆ โดยที่มาร์กซิอัลไม่สามารถเข้าซ้ำในจังหวะต่อเนื่องได้ทัน

หลังจากที่ได้ลุ้นน้อยครั้งใน 45 นาทีแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็กระหน่ำเปิดเกมบุกเป็นว่าเล่น และโอกาสก็มาถึงเรื่อยๆ แรชฟอร์ดลากบอลไปถึงสุดสนาม ก่อนจ่ายตัดกลับมาให้มาต้ายิงติดบล็อค จากนั้นลินการ์ดก็มายิงหลุดแฉลบกรอบออกไปติดเดียว จากลูกเตะมุมนั้นเอง บอลมาถึงวาเลนเซียที่ระยะ 35 หลา และเขาก็ซัดไกลจากตรงนั้นไปติดเซฟเฟเดริชี่ ก่อนที่ทั้งสมอลลิ่ง และมาต้าจะได้โอกาสลุ้นทำประตู แต่สุดท้ายสกอร์ก็ยังคงนำอยู่ที่ 1 – 0

แต่ในที่สุดสกอร์ขึ้นนำก็ถูกขยายออกห่างไปจนได้ในขณะที่เหลือเวลาอีก 16 นาที เป็นแรชฟอร์ดที่ยิงประตูที่ 8 จากการลงสนาม 17 เกมของเขา รูนี่ย์วางบอลมาให้วาเลนเซียโขกชงกลับหลังให้แรชฟอร์ดสับไกยิงจังหวะเดียวเข้าไปต่อหน้าแฟนๆ ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์

ยังถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่มาร์กซิอัล โดยยืนเป็นกองหน้า และเขาก็สอยตาข่ายได้ในขณะที่เหลือเวลาอีก 3 นาที จากจังหวะจ่ายขึ้นหน้าอย่างสุดสวยของรูนี่ย์ ถือเป็นประตูแรกที่ยังทำให้กับสโมสรได้ นับตั้งแต่ที่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 – 2 เมื่อเดือนเมษายน 2015

แม้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บจะต้องมาเสียประตูแบบโชคร้ายจากการยิงฝั่งตัวเองของสมอลลิ่ง แต่สุดท้ายทีมปีศาจแดงก็คว้าชัยชนะไปได้ ถือเป็นการขอบคุณแฟนๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ดเป็นครั้งสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนที่จะเดินหน้าต่อไปสำหรับภารกิจที่เวมบลีย์!
สถิติ


Related Posts

Copyright © 2024 Rumahminimalisdepok. All Right Reserved.